ถ้าดูไบคือหนึ่งในจุดหมายการท่องเที่ยวของคุณในครั้งนี้ บทความนี้ออกแบบมาเพื่อคุณ โดยผมได้รวบรวม ข้อมูล และขั้นตอนการ วางแผนเที่ยวดูไบ ฉบับล่าสุด 2023 ทำออกมาในรูปแบบ “คู่มือเที่ยวดูไบ” ที่สมบูรณ์ทั้งเนื้อหา ความถูกต้อง แหล่งข้อมูลอ้างอิง เพื่อให้คุณสามารถใช้บทความนี้ เป็นเสมือนเพื่อนของคุณในการเที่ยวดูไบให้สนุก
เพราะชีวิตของเรานั้นแสนสั้น ดังนั้น การเรียนรู้ทุก ๆ ข้อมูลที่สำคัญในบทความนี้ จะพา โดยในคู่มือเที่ยวดูไบด้วยตนเอง ฉบับสมบูรณ์ 2023 นี้คุณจะได้พบหัวข้อดังนี้
ทั้ง 8 หัวข้อข้างต้น เมื่อคุณอ่านจบและลงมือทำตาม ทุกขั้นตอน จะช่วยให้คุณเที่ยวดูไบสนุกขึ้น และมันจะเป็นทริปที่มีความหมายต่อคุณอย่างแน่นอนครับ และเนื่องจากบทความ คู่มือเที่ยวดูไบ นี้ค่อนข้างยาว ดังนั้น คุณอาจแบ่งเนื้อหาศึกษาและลงมือทำตาม วันละ 1-2 หัวข้อก็ได้
หรือถ้าคุณมีเวลามากพอ เช่น วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ คุณอาจตะลุยทำตามทุกข้อตั้งแต่ข้อ 1-8 เลยก็ได้ครับ
พร้อมแล้วที่เราจะไปสนุกกับการวางแผนเที่ยวดูไบด้วยตนเองแล้วใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นไปลุยกันเลย!
1.รู้จักเมืองดูไบ
ดูไบเป็นเมืองหนึ่งในประเทศ สาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ U.A.E. โดยมีผู้ปกครองนครดูไบคือ ท่าน Sheikh Mohammed ibn Rashid Al Maktoum (ชีค โมฮัมเหม็ด อิบัน ราชิด อัล มักตูม) เกิดเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 1949 (พ.ศ.2492) ปัจจุบันท่านอายุได้ 73 ปี และทำหน้าที่พัฒนาเมืองดูไบอย่างไม่หยุดยั้ง
gogodubai.net
เมื่อเราได้ยินคำว่าดูไบ ชื่อนี้ไม่ใช่ชื่อของประเทศ แต่เป็นชื่อเมืองหนึ่งของประเทศสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ U.A.E. โดยเมืองนี้ ถือเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุด กินพื้นที่กว่า 4,000 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรมากกว่า 2 ล้านคนอาศัยอยู่ในเมืองแห่งนี้

สภาพอากาศของเมืองดูไบนั้น มีลักษณะแห้งแล้ง และมีอุณหภูมิสูงโดยเฉพาะในช่วงของฤดูร้อน อาจพบอุณหภูมิมากกว่า 42 องศา แต่ในทางกลับกันเมื่อถึงช่วงฤดูหนาว อากาศในตอนกลางคืนอาจหนาวเย็นจนถึง 14 องศาเลยทีเดียว
ปัจจุบันดูไบถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีความสำคัญ มีความเจริญทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ส่งผลให้นักท่องเที่ยว และมหาศรษฐีจากทั่วโลกสนใจย้ายเข้ามาอาศัยอยู่ ณ เมืองดูไบ สิ่งนี้ยิ่งส่งผลให้การเติบโตของเมืองดังกล่าวพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง
โดย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และมีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย อาทิเช่น ตึงที่สูงที่สุดในโลกอย่าง Burj Khalifa ที่สูงกว่า 864 เมตร! หรือเกาะที่สร้างขึ้นด้วยมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกชื่อว่า Palm Jumirah ซึ่งที่กล่าวมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความยิ่งใหญ่ของเมืองดูไบ

ดังนั้น โปรดอย่าอ่านแค่ตัวหนังสือและชื่นชมกับความยิ่งใหญ่ แต่จงใช้สองขาและร่างกายของเรา เดินทางไปสู่มหานครแห่งอนาคตด้วยตัวคุณเอง และค้นพบกับแรงปรารถนาอันยิ่งใหญ่ ของผู้สร้างนครดูไบ ชีค โมฮัมเหม็ด อิบัน ราชิด อัล มักตูม Sheikh Mohammed ibn Rashid Al Maktoum ที่อาจจุดไฟในตัวของคุณให้ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง!

ตอนนี้เรารู้จักกับเมืองดูไบ พอเป็นที่เข้าใจแล้ว ในลำดับต่อไป ผมจะเริ่มต้นให้คุณรู้จักกับฤดูาลของเมืองดูไบ และช่วงเวลาน่าเที่ยวที่สุดของเมือง เพื่อเป็นแนวทางให้คุณเริ่มต้นวางแผนเที่ยวดูไบครับ
2.เที่ยวดูไบช่วงไหนดี?
ผมเชื่อว่า เมื่อพูดถึงดูไบ ความรู้สึกแรกเกี่ยวกับดูไบคือ เมืองร้อน หรือร้อนมาก ร้อนประเภทเอาไข่วางบนพื้นแล้วไข่สุก! อะไรทำนองนั้น ซึ่งจากความเชื่อข้อนี้ อาจทำให้คุณรู้สึกว่า ดูไบ อาจไม่ใช่ที่น่าเที่ยวนัก สำหรับคนไทยที่ชอบอากาศเย็นสบาย ๆ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว! ข้อมูลข้างต้นอาจถูกเพียงครึ่งเดียว และยังคงมีความจริงอีกหลาย ๆ ข้อเกี่ยวกับสภาพอากาศที่ดูไบ ซึ่งมีผลต่อการตอบคำถามว่า เราควรไปเที่ยวดูไบช่วงไหนดี? นั่นเอง
ดังนั้น สิ่งแรกที่เราจำทำความรู้จักคือ สภาพอากาศดูไบ ที่แท้จริง! ว่าในแต่ละช่วงฤดูนั้นมีอุณหภูมิ และลักษณะอากาศอย่างไรบ้าง
การแบ่งสภาพภูมิอากาศในดูไบนั้นจัดว่าเป็น ภูมิอากาศแบบทะเลทรายเขตร้อน (Hot desert Climate) มีฤดูกาลทั้งหมด 4 ฤดู ประกอบไปด้วย ฤดูหนาว, ฤดูไบไม้ผลิ, ฤดูใบไม้ร่วง, และฤดูร้อน
ฤดูกาล | ช่วงเดือน | ค่าเฉลี่ยอุณหภูมิ |
---|---|---|
ฤดูหนาว (Winter) | พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ | 25 – 20 องศา |
ฤดูไบไม้ผลิ (Spring) | มีนาคม – พฤษภาคม | 23 -31 องศา |
ฤดูร้อน (Summer) | มิถุนายน – สิงหาคม | 33 – 36 องศา |
ฤดูไบไม้ร่วง (Autumn) | กันยายน-ตุลาคม | 33 – 29 องศา |
หากดูจากข้อมูลฤดูกาลดูไบข้างต้น จะพบว่า การเที่ยวดูไบให้สนุก สำหรับคนที่ไม่ชอบอากาศร้อน คือช่วงปลายเดือน ต.ค. ถึงต้นเดือน เม.ย. คือคำตอบที่ดีที่สุด!

แต่สำหรับคนที่อยากสัมผัสกับ ภูมิอากาศแบบทะเลทรายเขตร้อน (Hot desert Climate) การเลือกฤดูกาลอื่น ๆ ของดูไบ จะทำให้คุณมีประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างจากคนทั่วไป!
เคล็ดลับ! การวางแผนเที่ยวดูไบในช่วงเดือน ต.ค. – เม.ย. คือช่วงเวลาที่อากาศดีที่สุดที่ดูไบ โดยเฉพาะตั้งแต่เดือน ธ.ค.-มี.ค. ดูไบอากาศหนาวกว่าเชียงใหม่ และมีลมตลอดทั้งวันและคืน เย็นสบายไม่มีเหงื่อเลย
gogodubai.net
ตอนนี้คุณมีข้อมูลเรียบร้อยเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศที่ถูกต้องในเมืองดูไบ ซึ่งจะช่วยให้คุณเลือกช่วงเวลาไปเที่ยวที่สอดคล้องกับความต้องการของคุณได้แล้ว
ในหัวข้อต่อไป ผมจะให้ข้อมูลสำคัญแก่คุณ เพื่อที่คุณจะได้กำหนดวันเที่ยวดูไบได้เหมาะสมกับความต้องการของคุณมากที่สุด
3.กำหนดจำนวนวัน
จำนวนวันที่จะไปเที่ยวดูไบก็มีผลต่อการดื่มด่ำกับประสบการณ์ในดูไบเช่นกัน ซึ่งหากเราพิจารณาจาก Visa ท่องเที่ยว ที่เราได้รับนั้น ส่วนใหญ่จะระบุเลยว่า ให้กรอบเวลาเที่ยว 30 วัน ซึ่งผมเชื่อว่า คนที่จะเที่ยวดูไบแบบ 30 วันนั้นน่าจะมีไม่มากนัก
ดังนั้นจำนวนวันเที่ยวที่เหมาะสมสำหรับคนที่เดินทางมาเที่ยวดูไบครั้งแรก น่าจะอยู่ในกรอบ 6 วัน – 8 วัน โดยเราจะหักวันเดินทางขากลับ 1 วันออกไปจากตัวเลขข้างต้น เหตุเพราะ ในตอนขากลับ เราจะต้องใช้เวลา 1 วันเต็ม ๆ เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย
เช่น ถ้าเดินทาง 09.00น. เวลาดูไบ ก็จะมาถึงประเทศไทยที่เวลา 18.00น. เวลาประเทศไทย (ซึ่งเวลาดูไบช้ากว่าเวลาไทย 3 ชั่วโมง) แต่เพื่อให้คุณเห็นกรอบเวลาเที่ยวให้มากขึ้น ผมขอสรุปข้อมูลเป็นตารางให้คุณพิจารณาดังนี้
จำนวนวัน | สถานที่เที่ยว | กิจกรรมที่ทำได้ |
---|---|---|
1 วัน | Downtown | 1 – 2 แห่ง |
3 วัน 2 คืน | Downtown, Deria, Marina | 3 – 6 แห่ง |
6 วัน 5 คืน | เที่ยวได้ทุกเขต | 6 – 12 แห่ง |
8 วัน 7 คืน | เที่ยวได้ทุกเขต | 8 – 16 แห่ง |
15 วัน 14 คืน | เที่ยวได้ทุกเขต | 15 – 30 แห่ง |
เที่ยว 1 วัน
การเที่ยวหนึ่งวันที่ดูไบ เหมาะสมสำหรับผู้ที่อาจต่อเครื่อง (Transit) มากกว่า โดยเน้นที่การนั่งรถไฟสาย Dubai Metro Red Line จากสถานี Terminal 3 หรือ 1 จากนั้นตรงมายังสถานี Burj Khalifa/Dubai Mall ซึ่งใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น
โดยผมแนะนำให้ซื้อบัตร Nol Red Card (บัตรกระดาษ) แล้วเลือกประเภทตั๋วคือ Gold Class แบบ All day หรือเหมาวันเลย จะสะดวกต่อการเดินทางมาก ๆ ครับ
ที่เที่ยวก็จะเป็น ห้างดูไบมอลล์ ตึก Burj Khalifa หรือกิจกรรมในห้างดูไบมอลล์ เช่น Shopping เป็นต้น และสามารถชมน้ำพุแห่งดูไบ (Dubai Fountain) ในช่วงเวลา 18.30น. ได้ด้วย

คุณไม่ต้องกังวลเรื่องเวลากลับ เพราะรถไฟที่ดูไบตรงเวลาพอ ๆ กับที่ญี่ปุ่นเลย และถ้าเหตุฉุกเฉินคุณก็สามารถใช้บริการรถ Taxi ที่มีตรา RTA รับรองเพื่อกลับยังสนามบินก็ได้ครับ
เที่ยว 3 วัน 2 คืน
หากเลือกเที่ยวดูไบแบบ 3 วัน 2 คืน เหมาะสมสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวแบบประหยัด โดยสามารถเที่ยวหรือทำกิจกรรมได้ประมาณ 3-6 แห่ง โดยผมให้เน้นไปที่ย่านเมืองใหม่ Downtown, และย่าน Deria หรือเมืองเก่าพอครับ อย่าเพิ่งเดินทางไปไกลมาก เช่นไป Palm Jumirah จะไม่ค่อยคุ้มกับเวลาที่เสียไป
บัตรรถไฟแนะนำเหมือนเดิมให้ซื้อบัตร Nol red Card (บัตรกระดาษ) แล้วเลือกประเภทตั๋วคือ Gold Class แบบ All day หรือเหมาวันเลย จะสะดวกต่อการเดินทางมาก ๆ ครับ
ที่เที่ยวแนะนำในย่าน Downtown ได้แก่ ตึก Burj Khalifa, ทำกิจกรรมที่ Sky Address Observator (เดินกระจก), ชมน้ำพุ, Shopping ที่ห้าง Dubai mall

ที่เที่ยวแนะนำย่าน Deria ได้แก่ เมืองประวัติศาสตร์ Dubai creek, หรือตลาดทอง Gold Souq และทานอาหารพื้นเมืองที่นั่นเลย เป็นต้น

อย่าลืมเรื่องการบริหารวันกลับ เพราะว่า ส่วนใหญ่แล้วต้องเสียวันเดินทางกลับประเทศไทยหนึ่งวันเสมอหากคุณเลือกบินกับสายการบิน Emirates Airline
เที่ยว 6 วัน 5 คืน ⭐⭐⭐⭐⭐
สำหรับความคิดผม การมาเที่ยว 6 วัน 5 คืน น่าจะเพียงพอต่อความต้องการมากที่สุด และทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศ และการใช้ชีวิตแบบอาหรับได้เต็มรูปแบบครับ คุณสามารถเที่ยวได้ทุกเขตของเมืองดูไบที่ต้องการ โดยสามารถจัดตารางกิจกรรมได้มากกว่า 6-12 แห่ง ขึ้นอยู่กับความต้องการเลย
ด้วยตารางวันแบบนี้ คุณสามารถขยับออกมาเที่ยวนอกเมือง เพื่อมาชมสวนดอกไม้ที่แสนอลังการอย่าง Dubai Miracle Garden เป็นต้น หรือจะไปยังตลาด ก็สามารถทำได้ทั้งสิ้น

คุณอาจเลือกใช้บัตร Nol red Card (บัตรกระดาษ) และเลือกที่นั่งแบบ Regular เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย หรือจะซื้อบัตร Nol Silver card แล้วเน้นเติมเงินเข้าบัตรเรื่อย ๆ ก็ได้
แน่นอนว่า อย่าลืมเรื่องการบริหารวันกลับ เพราะว่า ส่วนใหญ่แล้วต้องเสียวันเดินทางกลับประเทศไทยหนึ่งวันเสมอหากคุณเลืกบินกับสายการบิน Emirates Airline
เที่ยว 8 วัน 7 คืน
ถ้าคุณพร้อมด้วยกำลังทรัพย์ หรือต้องการดื่มด่ำกับประสบการณ์ที่เมืองดูไบมากกว่าใคร ๆ การเลือกจำนวนวันเที่ยวแบบ 8 วัน 7 คืน อาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณ เอาเข้าจริง ดูไบมีสถานที่เที่ยวมากกว่า 100 แห่ง และเพิ่มขึ้นทุกวัน!
ดังนั้นคุณอาจใช้ช่วงเวลาที่มี เก็บสถานที่เที่ยวสำคัญ ๆ ก็ได้นะครับ
เที่ยว 14 คืน 15 วัน
สำหรับจำนวนวันระดับ 15 วัน 14 คืน เหมาะสมมากหากคุณต้องการทดลองใช้ชีวิตเสมือนว่าอาศัยอยู่ที่ดูไบ และผมแนะนำให้คุณเลือกที่พักแถวย่าน Marina เพื่อพักอย่างน้อย 5 วัน (ย่านชาวต่างชาติเหมือนพัทยา เชียงใหม่) ลองดื่มด่ำกับการใช้ชีวิตแบบ Slow Life

บางทีคุณอาจพบแรงบันดาลใจว่า เมืองดูไบอาจเป็นสถานที่พักผ่อนยามเกษียณอายุของคุณที่ดีที่สุดก็เป็นได้ครับ
ตอนนี้คุณมีข้อมูลเรื่องกรอบจำนวนวันเที่ยวดูไบเรียบร้อย ลองพิจารณาและวิเคราะห์ดูครับว่า สำหรับตัวคุณเองนั้น กรอบเวลาช่วงไหนเหมาะสม และตอบโจทย์ความต้องการของคุณมากที่สุด?
โดยในหัวข้อต่อไป ผมจะออกแบบโปรแกรมการท่องเที่ยวดูไบ โดยอ้างอิงตามวันเที่ยวข้างต้นนี้ แต่ต้องบอกก่อนนะครับว่า คุณไม่จำเป็นใด ๆ เลยที่จะต้องยึดตามตารางข้างล่างนี้ คุณปรับแก้ไขได้หมด แต่ที่ผมทำมาเพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้คุณเท่านั้นเอง แต่ถ้าคุณไม่มีเวลาออกแบบ ก็สามารถใช้ตารางข้างล่างนี้ได้เลยครับ
4.โปรแกรมเที่ยวดูไบ
สำหรับโปรแกรมเที่ยวดูไบ ผมจะออกแบบให้สูงสุดคือ 6 วัน 5 คืนนะครับ โดยหากคุณเลือกพักดูไบนานกว่านี้ คุณสามารถประยุกต์ ตารางเที่ยวและออกแบบขึ้นมาด้วยตนเองได้เลยครับ
เที่ยว 1 วัน
วันที่ 1
เวลา | รายละเอียด |
---|---|
14.30น. | นั่งรถไฟ Dubai Metro Red Line มาสถานี Burj Khalifa/Dubai Mall |
15.30น. | ซื้อตั๋ว ชมตึก BurjKhalifa |
17.00น. | ลงมาทานอาหารเย็นบริเวณชั้น 1 อาจเลือทานร้าน KFC แะนั่งชมวิวน้ำพุด้านนอกร้านได้เลย ฟรี! |
18.30น. | ชมการแสดง น้ำพุแห่งดูไบ ฟรี! |
19.30น. | เดินชมห้าง Dubai Mall แบบสั้น ๆ |
20.30น. | เดิน Sky Walk จาก Dubai Mall ไปยังสถานีรถไฟป้าย Burj Khalifa/Dubai Mall |
21.00น. | นั่งรถไฟ Dubai Metro Red Line กลับสนามบิน โดยลงที่ Terminal 3 หรือ 1 |
เที่ยว 3 วัน 2 คืน
วันที่ 1
เวลา | รายละเอียด |
---|---|
14.30น. | นั่งรถไฟ Dubai Metro Red Line มาที่พัก และ Checkin |
15.30น. | นอนพัก 30 นาที จากนั้นเดินสำรวจโรงแรม ร้านอาหารใกล้เคียง |
15.30น. | นั่งรถไฟมาลงสถานี BurjKhalifa/Dubai mall ซื้อตั๋ว ชมตึก BurjKhalifa |
17.00น. | ลงมาทานอาหารเย็นบริเวณชั้น 1 อาจเลือทานร้าน KFC แะนั่งชมวิวน้ำพุด้านนอกร้านได้เลย ฟรี! |
18.30น. | ชมการแสดง น้ำพุแห่งดูไบ ฟรี! |
19.30น. | เดินชมห้าง Dubai Mall แบบสั้น ๆ |
20.30น. | เดิน Sky Walk จาก Dubai Mall ไปยังสถานีรถไฟป้าย Burj Khalifa/Dubai Mall |
21.00น. | เดินทางกลับที่พัก, ทำภารกิจส่วนตัว, นอน |
วันที่ 2
เวลา | รายละเอียด |
---|---|
07.00น. | ตื่นนอน, ทำภารกิจส่วนตัว |
07.30น. | รับประทานอาหารเช้า |
09.00น. | นั่งรถไฟไปลงสถานี Al Jafiliya ซื้อตั๋วชม Dubai Freme |
12.00น. | แวะทานอาหารร้าน Unwind Speciality Boardgame Cafe – Zabeel |
13.00น. | นั่งรถไฟต่อไปลงสถานี Al Ghubaiba ขึ้นมาและเดินเรียบคลอง Dubai Creek ชมคลอง Dubai Creek, พิพิธภัณฑ์ Al Shindagha, และตลาด Bur Dubai Souk Market เดินมาให้ถึง Al Fahidi Historical (หรือย่านเมืองเก่าดูไบสมัยก่อน) |
15.00น. | เดินมาขึ้นรถไฟที่สถานี Sharaf DG ไปลงสถานี Gold Souq |
15.30น. | เดินเที่ยวย่านตลาดทองคำ, และย่านเครื่องเทศ น้ำหอม |
18.00น. | รับประทานอาหารค่ำแถวตลาด |
21.00น. | เดินทางกลับที่พัก, ทำภารกิจส่วนตัว, นอน |
วันที่ 3
เวลา | รายละเอียด |
---|---|
05.00น. | ตื่นนอน, ทำภารกิจส่วนตัว |
06.00น. | นั่งรถไฟกลับมายังสนามบินลงที่สถานี Terminal 3 |
06.40น. | Check in |
08.30น. | รอขึ้นเครื่องหน้า Gate กลับประเทศไทย |
09.30น. | เดินทางกลับประเทศไทยด้วยสายการบิน Emirates Airline |
19.30น. | เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ |
เที่ยว 6 วัน 5 คืน ⭐⭐⭐⭐⭐
วันที่ 1
เวลา | รายละเอียด |
---|---|
14.30น. | นั่งรถไฟ Dubai Metro Red Line มาที่พัก และ Checkin |
15.30น. | นอนพัก 30 นาที จากนั้นเดินสำรวจโรงแรม ร้านอาหารใกล้เคียง |
15.30น. | นั่งรถไฟมาลงสถานี BurjKhalifa/Dubai mall ซื้อตั๋ว ชมตึก BurjKhalifa |
17.00น. | ลงมาทานอาหารเย็นบริเวณชั้น 1 อาจเลือทานร้าน KFC แะนั่งชมวิวน้ำพุด้านนอกร้านได้เลย ฟรี! |
18.30น. | ชมการแสดง น้ำพุแห่งดูไบ ฟรี! |
19.30น. | เดินชมห้าง Dubai Mall แบบสั้น ๆ |
20.30น. | เดิน Sky Walk จาก Dubai Mall ไปยังสถานีรถไฟป้าย Burj Khalifa/Dubai Mall |
21.00น. | เดินทางกลับที่พัก, ทำภารกิจส่วนตัว, นอน |
วันที่ 2
เวลา | รายละเอียด |
---|---|
07.00น. | ตื่นนอน, ทำภารกิจส่วนตัว |
07.30น. | รับประทานอาหารเช้า |
09.00น. | นั่งรถไฟไปลงสถานี Al Jafiliya ซื้อตั๋วชม Dubai Freme |
12.00น. | แวะทานอาหารร้าน Unwind Speciality Boardgame Cafe – Zabeel |
13.00น. | นั่งรถไฟต่อไปลงสถานี Al Ghubaiba ขึ้นมาและเดินเรียบคลอง Dubai Creek ชมคลอง Dubai Creek, พิพิธภัณฑ์ Al Shindagha, และตลาด Bur Dubai Souk Market เดินมาให้ถึง Al Fahidi Historical (หรือย่านเมืองเก่าดูไบสมัยก่อน) |
15.00น. | เดินมาขึ้นรถไฟที่สถานี Sharaf DG ไปลงสถานี Gold Souq |
15.30น. | เดินเที่ยวย่านตลาดทองคำ, และย่านเครื่องเทศ น้ำหอม |
18.00น. | รับประทานอาหารค่ำแถวตลาด |
21.00น. | เดินทางกลับที่พัก, ทำภารกิจส่วนตัว, นอน |
วันที่ 3
เวลา | รายละเอียด |
---|---|
07.00น. | ตื่นนอน, ทำภารกิจส่วนตัว |
07.30น. | รับประทานอาหารเช้า |
09.00น. | นั่งรถไฟไปลงสถานี Mall of Emirates เที่ยว Shopping หรือ เล่น Ski ที่ห้างแห่งนี้ (ควรนั่ง Gold Class) |
12.00น. | รับประทานอาหารกลางวัน |
13.00น. | ไปเที่ยวสวนดอกไม้ Dubai Miracle Garden (นั่ง Taxi ที่มีป้าย RTA เท่านั้น) |
16.30น. | ไปเที่ยว Global Village ธีมพาร์ค (นั่ง Taxi ที่มีป้าย RTA เท่านั้น) |
18.00น. | รับประทานอาหารค่ำที่ Global Village |
20.00น. | กลับที่พักด้วยรถ Taxi ที่มีป้าย RTA เท่านั้น |
21.00น. | ทำภารกิจส่วนตัว, นอน |
วันที่ 4
เวลา | รายละเอียด |
---|---|
07.00น. | ตื่นนอน, ทำภารกิจส่วนตัว |
07.30น. | รับประทานอาหารเช้า |
09.00น. | นั่งรถไฟชมเมืองยาว ๆ ไปลงสถานี Sobha Realty (ควรนั่ง Gold Class) เปลี่ยนรถไฟไปนั่ง Tram Line ไปลงสถานี Palm Jumirah เดินขึ้นลิฟท์ข้ามฝั่งเพื่อไปยัง Palm Gateway และซื้อตั๋วแบบ Round Trip |
10.30น. | ชมความสวยงามของเกาะ Palm Jumirah ไปสุดสายที่ Atlantis Aquaventure |
11.00น. | เดินเที่ยวห้าง Atlantis มีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ The Lost Chambers หรือจะเล่นสวนน้ำ Atlantis Aquaventure |
12.30น. | รับประทานอาหารเที่ยงที่ Atlantis (มีร้านสั่งอาหารไทย ผัดไทกุ้งสด อร่อยมาก) |
14.00น. | นั่งรถไฟมาลงสถานี Nakheel Mall แนะนำทานขนม คาเฟ่ในห้างก่อน และเดินห้างเล่นสักชั่วโมง |
16.00น. | ซื้อตั๋ว The View at the Palm เพื่อไปชมความยิ่งใหญ่ของ Palm Jumirah บนชั้น 47 (ไม่ใช่สระน้ำ) |
18.00น. | กลับจากชมวิว นั่งรถไฟมายังสถานี The Pointe |
18.30น. | รับประทานอาหารค่ำที่นี่ |
19.00น. | ชมการแสดงน้ำพุ The Palm Fountain ฟรี! (แสดง 3 นาที) |
19.30น. | นั่งรถไฟกลับมายังสถานี Plam Gateway ตามด้วยเดินย้อนกลับมาขึ้น Tram Line แล้วมาลงที่ Dubai Marina จากนั้นเดินมาขึ้นรถไฟที่สถานี Sobha Realty นั่งกลับที่พัก |
21.30น. | ทำภารกิจส่วนตัว, นอน |
วันที่ 5
เวลา | รายละเอียด |
---|---|
07.00น. | ตื่นนอน, ทำภารกิจส่วนตัว |
07.30น. | รับประทานอาหารเช้า |
09.00น. | นั่งรถไฟไปสถานี Emirates Tower จากนั้นเดินไปบน Sky Walk ไป Museum of The Future |
11.00น. | เที่ยว Museum of The Future |
14.00น. | แวะทานอาหารเที่ยงที่ร้าน The Little Bangkok (สถานี Emirates Tower) |
15.00น. | พักผ่อน นอนหลับ ณ ที่พักของคุณก่อน |
16.30น. | นั่งรถไฟมาลงสถานี Sobha Realty จากนั้นตั้ง GPS เดินไปที่จุด Dubai Marina Walk |
17.30น. | เดินเที่ยวย่าน Dubai Marina Walk |
19.00น. | รับประทานอาหารค่ำ |
20.00น. | เดินทางกลับที่พัก |
21.30น. | ทำภารกิจส่วนตัว, นอน |
วันที่ 6
เวลา | รายละเอียด |
---|---|
05.00น. | ตื่นนอน, ทำภารกิจส่วนตัว |
06.00น. | นั่งรถไฟกลับมายังสนามบินลงที่สถานี Terminal 3 |
06.40น. | Check in |
08.30น. | รอขึ้นเครื่องหน้า Gate กลับประเทศไทย |
09.30น. | เดินทางกลับประเทศไทยด้วยสายการบิน Emirates Airline |
19.30น. | เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ |
เป็นอย่างไรบ้างครับ โปรแกรมเที่ยวดูไบ ข้างต้นพอเป็นแนวทางให้คุณใช้วางแผนเที่ยวดูไบได้ไหม? จะเห็นว่า ยังมีอีกหลายสถานที่เที่ยวที่ไม่ได้ไป ดังนั้น หากคุณมีสถานที่เที่ยวมากกว่านี้ นั่นหมายถึง จำนวนวันที่คุณควรเพิ่มเข้ามาเพื่อให้ทริปดูไบของคุณสนุกยิ่งขึ้นครับ
สำหรับในหัวข้อต่อไป เราจะไปประเมินค่าใช้จ่ายกันว่า การมาเที่ยวดูไบในกรอบเวลาข้างต้น มีงบประมาณค่าใช้จ่ายต่อคนเท่าไหร่บ้าง ไปดูกันเลยครับ
5.งบประมาณค่าใช้จ่าย
ส่วนสำคัญประการต่อมาคือ ค่าใช้จ่ายครับ โดยผมได้ทำตารางเประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นต่อหัวไว้ หลัก ๆ จะมีดังนี้คือ
รายการ | ค่าใช้จ่ายต่อคน (บาท) |
---|---|
1.ค่าตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพ-ดูไบ (ไป-กลับ) | 32,000 |
2.ค่าที่พัก (ต่อคืน) | 2,500 |
3.ค่าอาหาร 3 มื้อต่อวัน (รวมน้ำดื่ม) | 3,000 |
4.ค่าเดินทาง (ต่อวัน) | 500 |
5.ค่าสถานที่เที่ยว | 1,000-3,000 |
6.ค่าทำ eVisa | 4,000 |
7.ค่าประกันการเดินทาง | 500 |
1.ค่าตั๋วเครื่องบิน กรุงเทพ-ดูไบ (ไปกลับ)
ค่าใช้จ่ายส่วนแรกคือ ค่าตั๋วเครื่องบิน ซึ่งตั๋วเครื่องบินที่ผมแนะนำคือ เดินทางด้วยสายการบิน Emirates Airline ซึ่งมีข้อดีประการสำคัญคือ คุณจะได้รับสิทธิ์ในการทำ eVisa โดยสายการบินดังกล่าวจะรับรองคุณเอง ทำให้ประหยัดเวลาการทำวีซ่ามาก และยังประหยัดค่าใช้จ่ายด้วย

สำหรับค่าเฉลี่ยตั๋วโดยสารสายการบิน Emirates Airline เป็นดังนี้คือ
ประเภทตั่วโดยสาร | ราคาต่อคน |
---|---|
1.ชั้นประหยัด Economy Class | 32,000 บาท |
2.ชั้นธุรกิจ Business Class (ตั๋วนอน) | 72,000 บาท |
3.ชั้นหนึ่ง First Class (ตั๋วนอน) | 120,000 บาท |
ระยะเวลาเดินทางโดยประมาณคือ 6 ชั่วโมง ถึง 6 ชั่วโมงครึ่ง ซึ่งเป็นระยะเวลาเดียวกันกับการนั่งเครื่องบินไปญี่ปุ่นจากประเทศไทยครับ โดยคุณสามารถเลือกบินในเวลากลางวันหรือกลางคืนได้เลย
2.ค่าที่พักต่อคืน
ที่พักในเมืองดูไบ มีหลายเกรดครับ ไม่ใช่ว่ามีแต่ของแพงอย่างเดียว ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือกที่พักที่ไหน บางคนอาจเลือกย่านเมืองเก่า Deria ก็ถูกหน่อย ราว ๆ 1,500 บาทขึ้นไป
หรือบางคนเลือกที่พักตามแนวรถไฟฟ้า Dubai Metro Red Line ซึ่งผมแนะนำมาก หากคุณไปเที่ยวดูไบด้วยตนเองครั้งแรก สนนราคาก็อยู่ราว ๆ 2,500 – 5,000 บาทขึ้นไป

ในขณะที่หลาย ๆ คนอาจเลือกพักที่ Downtown หรือใกล้กับจุดความเจริญในดูไบ เช่นตึก Burj Khalifa เป็นต้น หรืออาจเป็นที่ Palm Jumirah อันนี้ก็จะมีราคาที่แพงตั้งแต่ 8,000 บาทขึ้นไปต่อคืน
โดยสามารถสรุปกรอบราคาได้ดังนี้คือ
ประเภทที่พักดูไบ | กรอบราคาต่อคืน | ย่านที่พัก |
---|---|---|
1.ประหยัด | 1,500 บาทขึ้นไป | เมืองเก่า Deria |
2.มาตรฐาน | 2,500 บาทขึ้นไป | ติดสถานี Dubai Metro Red Line |
3.VIP | 8,000 บาทขึ้นไป | Downtown, Marina, Palm Jumirah |
3.ค่าอาหาร
อาหารในดูไบ มีแนวโน้มจะหายากกว่าเมืองไทยครับ และร้อยละ 100 ไม่มีหมู ส่วนใหญ่เป็นเนื้อไก่ รวมทั้งผักก็หายากพอ ๆ กับผลไม้รสชาติหวาน ดังนั้น ค่าอาหารจึงขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกทานที่ไหน ซึ่งผมสรุปเป็นกรอบราคามาให้ดังนี้
วิธีทานอาหาร | กรอบราคาต่อมื้อ/จาน | ข้อเสนอแนะ |
---|---|---|
1.ทำเอง | 250 บาท | เลือกที่พักที่มีครัวจะช่วยประหยัดมาก ๆ |
2.ซื้อตามร้านสะดวกซื้อ | 350 บาท | ร้านสะดวกซื้อคือสวรรค์ หาให้เจอ |
3.ร้านอาหาร | 500 บาทขึ้นไป | มีเงินจ่าย เน้นร้านอาหารได้ |
4.ผ่าน Application | 350 บาท | สะดวก เวลาอยู่ห้องพักไม่ไปไหน |
เคล็ดลับ! เพื่อช่วยลดค่าอาหารให้ถูกลง ผมแนะนำให้เลือกที่พักที่มีบริการอาหารเช้าให้คุณด้วย เพราะจะช่วยประหยัดเวลามาก ๆ ครับ อีกทั้ง ในมื้ออื่น ๆ พยายามมองหาร้านสะดวกซื้อ จะช่วยประหยัดค่าอาหารได้มาก (อาหาร Wave เหมือน 7-11)
gogodubai.net
อีกแนวทางที่คนไทย ที่ไปอยู่ดูไบใช้คือ การสั่งอาหารผ่าน Application ครับ ซึ่งสะดวกสบายมาก ๆ และได้อาหารที่มีคุณภาพ ตรงตามต้องการ อาหารไทยก็มี ความรู้สึกเหมือนสั่งผ่าน Grab บ้านเราเลยครับ โดยจ่ายเงินผ่านการตัดบัตรเครดิต และให้มาส่งอาหารที่ Reception โรงแรม และให้โรงแรมโทรหาเราให้ลงไปรับอาหารแค่นั้น!
4.ค่าเดินทาง
แม้ว่าระบบการคมนาคมในดูไบมีทั้งทางบก ทางน้ำและระบบการขนส่งมีคุณภาพ แต่ส่วนใหญ่แล้ว ผมแนะนำให้คุณเลือกใช้ระบบรถไฟฟ้าเป็นหลักครับ เนื่องจาก สะดวก ปลอดภัย และมีราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับแบบอื่น ๆ ซึ่งค่าเดินทางก็จะเฉลี่ยวันละ 300-500 บาทครับ

5.ค่าสถานที่เที่ยว
ที่เที่ยวดูไบ มีทั้งฟรี! และเสียเงิน ดังนั้นโปรดศึกษาให้ดีว่าคุณต้องการไปเที่ยวที่ไหนบ้าง ภายในกรอบโปรแกรมเที่ยวของคุณ ซึ่งถ้าเป็นที่เที่ยวใหม่ ๆ คุณอาจต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงพอสมควรครับ
สำหรับที่เที่ยวดูไบที่เป็นจุดเด่น และคุณควรไป ไม่ว่าคุณจะมีโปรแกรมเที่ยวดูไบกี่วันก็ตาม ผมรวบรวมมาให้แล้วครับเป็นเบื้องต้นจำนวน 15 ที่เที่ยวดูไบ โดยพยายามไปให้ครบนะครับ และแนะนำว่าจองตั๋วออนไลน์ไปเลยจะดีที่สุดครับ
ลำดับ | ชื่อที่เที่ยว/กิจกรรม | ราคาตั๋ว |
---|---|---|
1 | ชมยอดตึก Burj Khalifa | 1,136 บาท |
2 | ชมการแสดงน้ำพุดูไบ | ฟรี! |
3 | ห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่สุดในโลก The Dubai Mall | ฟรี! |
4 | Museum Of Future | 1,332 บาท |
5 | Dubai Frame | 442 บาท |
6 | ตลาดทองคำ Gold Souq | ฟรี! |
7 | ตลาด Bur Dubai Souk Market | ฟรี! |
8 | Dubai Miracle Garden | 671 บาท |
9 | Global Village | ฟรี! |
10 | The View at the Palm | 885 บาท |
11 | The Pointe | ฟรี! |
12 | สวนน้ำ Aquaventure Waterpark | 760 บาท |
13 | พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ The Lost Chambers Aquarium | 984 บาท |
14 | Dubai Marina Walk | ฟรี! |
15 | Sky Address Observator | 760 บาท |
นอกจากนี้คุณยังสามารถค้นหาที่เที่ยวดูไบใหม่ ๆ ได้เพิ่มเติมจากบทความของเราด้านล่าง
แต่สำหรับความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่าเที่ยวให้ครบ 15 ที่เที่ยวข้างต้น ก็ถือได้ว่าคุณมาเมืองดูไบคุ้มค่าแล้วอย่างแน่นอนครับ
6.eVisa
ค่าใช้จ่ายประการที่ 6 คือค่าทำ eVisa ซึ่งเราจะทำภายหลังจากที่จองตั่วสายการบิน Emirates Airline เรียบร้อยแล้วเท่านั้นครับ โดยค่าใช้จ่ายนั้นจะอยูที่ประมาณ 4,000 บาทต่อคน โดยเอกสารและวิธียืนจะต้องทำอย่างไร ผมจะกล่าวไว้อีกทีในตอนที่พูดถึงวิธีทำ eVisa นะครับ
7.ค่าประกันการเดินทาง
เรื่องนี้สำคัญมากครับ อย่าลืมเด็ดขาด คุณจำเป็นต้องทำประกันเดินทาง เพราะหากเกิดการเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุฉุกเฉินคุณสามารถเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในดูไบได้เลย โดยข้อดีของดูไบคือมีโรงพยาบาลเพียงพอที่จะรักษาคุณอยู่มากมายครับ
6.วิธีเลือกที่พักดูไบ
ในขั้นตอนนี้เราจะให้คุณเลือกโรงแรม หรือที่พักดูไบออกมาครับ โดยเน้นไปที่โรงแรม หรือที่พักที่ตรงกับความชอบของคุณ สิ่งสำคัญที่สุดคือ เราต้องการหมายเลขยืนยันการจอง
การเลือกที่พักดูไบนั้น มีด้วยกันหลายประเภท ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการเดินทางมาดูไบของคุณ แต่สำหรับวัตถุระสงค์การเดินทางมาเที่ยวดูไบ ผู้เขียนคิดว่าเมื่อเรานำมาแบ่งเป็นประเภทของการเลือกที่พักดูไบ จะสามารถแบ่งได้จำนวน 3 ประเภทดังนี้
ประเภทที่พักดูไบ | ข้อดี | ข้อจำกัด | เหมาะสมกับใคร |
1.เดินทางสะดวก | 1.ประหยัดค่า TAXI 2.เดินทางสะดวกมาก ๆ 3.ใครชอบตะลุยเที่ยว แนะนำมาก ๆ | 1.บางที่พักราคาแพง 2.คุณต้องลากกระเป๋าเอง | 1.เที่ยวครั้งแรก 2.เที่ยวกับครอบครัว 3.เที่ยวคนเดียว |
2.หรูหรา | 1.ได้รับบริการระดับ VIP 2.มีรถรับ-ส่งสนามบินพร้อม 3.ถ่ายรูปอัพลง IG โชว์ความสำเร็จในชีวิตได้ | 1.ราคาสูง-สูงมาก 2.จ่ายค่าภาษีเมืองสูงกว่า | 1.นักธุรกิจ 2.ผู้ประสบความสำเร็จ 3.ผู้มีฐานะทางการเงินดีมาก |
3.ประหยัด | 1.ราคาถูก ไม่เกิน 1,500 บาท/คืน 2.ใช้เงินที่ดูไบได้มากขึ้น 3.มีงบน้อยก็เที่ยวดูไบได้ | 1.อยู่ในย่านที่อยู่ไกลการคมนาคม 2.อาจมีเสียงดังรบกวนหากเลือกที่พักไม่ดี 3.คุณภาพเพื่อนร่วมที่พักอาจไม่ดีนักในบางที่พัก | 1.Backpacker 2.Digital Nomad 3.ฟรีแลนซ์ |
1.ที่พักดูไบเดินทางสะดวก
ที่พักดูไบประเภทแรกนั้น เป็นที่พักที่สะดวกต่อการเดินทางไปกลับระหว่างที่พักและสนามบินนานาชาติดูไบ ซึ่งโดยปกติแล้ว เราจะเลือกพักยังโรงแรมที่อยู่ใกล้ Dubai Metro Red Line ซึ่งเป็นเส้นรถไฟฟ้าที่สามารถนั่งกลับสนามบินได้ภายในกรอบเวลา (8 นาที – 60 นาที) อีกทั้งการเลือกที่พักดูไบเดินทางไปกลับสะดวก ยังช่วยคุณประหยัดค่า TAXI ไปสนามบินอีกด้วย
2.ที่พักดูไบเน้นหรูหรา
ถ้าการเดินทางมาดูไบครั้งนี้ของคุณ ต้องการที่พักที่หรูหรา และการบริการระดับ VVIP ถือว่าประเภทการเดินทางแบบนี้คือสิ่งที่คุณกำลังค้นหาครับ หัวใจสำคัญของการเดินทางประเภทนี้นั่นคือ รถรับส่งสนามบิน ซึ่งข่าวดีคือ เราคัดเลือกโรงแรมที่มีบริการดังกล่าวพร้อมสรรพให้กับคุณเรียบร้อย
3.ที่พักดูไบเน้นประหยัด
ที่พักดูไบประเภทที่สามนี้ เป็นที่เน้นเรื่องราคาที่ประหยัด โดยผู้เขียนกำหนดค่าเฉลี่ยว่า หากต่ำกว่า 1,999 บาท ต่อคืน ต่อคน ก็ถือว่าเป็นที่พักที่มีราคาถูก หรือประหยัดแล้ว
ดังนั้นหากเราสรุปเป็นข้อดี ข้อจำกัดของที่พักดูไบแต่ละประเภท จะสามารถสรุปได้ตามตารางด้านล่างดังนี้คือ
หัวข้อต่อไป ผมจะให้เคล็ดลับ เล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นความรู้ประกอบความเข้าใจ ก่อนที่คุณจะกดจองที่พักดูไบดังนี้ครับ
Booking.comเคล็ดลับเลือกที่พักดูไบให้โดนใจครั้งแรก
1.ยิ่งห้องพักราคาสูงภาษียิ่งแพง
สิ่งแรกที่คุณจะต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนทำการจองที่พักดูไบ นั่นคือ ภาษีเมืองที่คุณจะต้องจ่ายครับ โดยปกติแล้ว ยิ่งราคาห้องพักสูง จำนวนของภาษีเมืองก็จะสูงตามไปด้วยเสมอ และหลายๆ Agent คิดราคาเริ่มต้นให้คุณอาจไม่รวมภาษีเมืองด้วย ดังนั้น ตรวจสอบสิ่งนี้ให้ดี และลองรวมราคาห้องพัก+ภาษีเมือง คุณจึงจะได้ราคาสุทธิที่แท้จริงครับ
2.ราคาแพงที่สุดอาจไม่ใช่ดีที่สุด
โรงแรม หมายถึง ที่นอน ดังนั้นหัวสำคัญของมันคือการนอนพักอย่างน้อย 8 ชั่วโมง เพื่อให้คุณมีแรงเดินทางไปเที่ยวดูไบ และหาประสบการณ์ ดังนั้น การจ่ายแพงขึ้น อาจไม่ได้หมายถึงคุณนอนหลับมากขึ้นแต่อย่างใด
และหลาย ๆโรงแรม ดังนั้นก่อนจองโรงแรมราคาแพง ต้องตอบให้ชัดเจนว่า เราจะจองไปเพื่ออะไรเช่น จะถ่ายรูปเช็คอิน จะกินอาหารอร่อย จะหวังว่าจะได้รับบริการที่เป็นเลิศ อะไรทำนองนี้
3.ระวังเรื่องการ Check out วันอาทิตย์
หากคุณเลือกที่พักใกล้ Dubai Metro Line ทุกสาย และต้องการใช้ระบบการเดินทางโดยรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางกลับไปยังสนามบินนานาชาติดูไบ สิ่งที่ผมอยากให้คุณวางแผนให้ดีคือ ระยะเวลาที่คุณจะใช้บริการครับ
เพราะว่า Dubai Metro Line นั้นจะเปิดบริการวันอาทิตย์เริ่มต้นที่ 08.00น. นะครับ หรือแปดโมงเช้า ดังนั้น ถ้าคุณมีไฟล์บินเช้าในวันอาทิตย์ ห้ามเดินทางด้วย Dubai Metro Line อย่างเด็ดขาด!
4.จองที่พักแบบยกเลิกได้ดีกว่าถ้าคุณไม่ชัวร์
เนื่องจากดูไบเป็นเมืองที่ผู้คนทั่วโลกกำลังหลั่งไหลไป โดยเ)พาะในช่วงของฤกูหนาว ดังนั้นผมแนะนำให้คุณรีบจองที่พักดูไบ โดยเลือกแบบยกเลิกที่พักได้ฟรี 100% ไปก่อน เหตุผลเพราะว่า อย่างน้อยคุณยังได้ที่พักและห้องพักที่ต้องการ ก่อนที่คนทั่วโลกจะเข้ามาแย่งคุณ
และหากคุณไม่ต้องการพักที่นั่นจริง ๆ คุณสามารถย้ายโรงแรม โดยการกดยกเลิกห้องพักที่คุณจองไว้ก่อนหน้านั้นก็ได้ แต่ทั้งนี้โปรดตรวจสอบวันที่ระบบ Agent จะตัดเงินให้ดี เพราะหลาย ๆ แห่งมักตัดเงินก่อนวันเข้าพักจริง 7 วัน
และข้อเสียประการสำคัญคือ การจองที่พักแบบยกเลิก 100% หมายถึงคุณจะต้องจ่ายค่าห้องพักแพงกว่าปกติครับ ซึ่งถ้าคุณไม่ต้องการสิ่งนี้ล่ะก็ โปรดอย่าจองแบบยกเลิกฟรี 100% เท่านั้นเอง
5.นึกอะไรไม่ออกให้เน้นจองที่พักติด Metro ไว้ก่อน
ถ้าคุณเดินทางครั้งแรก หรือมาเที่ยวดูไบครั้งแรก โปรดเน้นไปที่การเลือกที่พักใกล้สถานี Dubai Metro Line ไว้ก่อนครับ เหตุเพราะ มันช่วยคุณประหยัดเวลาได้มากมาย และที่สำคัญคือ คุณแทบไม่ต้องกังวลเรื่องการเดินทางกลับไปยังสนามบินเลย รวมทั้ง การขึ้น Taxi หรืออื่น ๆ ทุกอย่างสะดวกสบายมาก ๆ
6.มาครั้งแรก ให้จองที่พักดูไบ+อาหารเช้าเท่านั้น
ถ้าคุณต้องทานอาหารเช้า จงเลือกโรงแรมที่ดีและมีบริการอาหารเช้าให้กับคุณ อย่าเลือกโรงแรมที่ไม่มีอาหารเช้านะครับ เพราะสิ่งที่คุณต้องปรัวตัวคือ การค้นหาแหล่งรับประทานอาหารเช้า ซึ่งอาจยากไปสำหรับคุณ
ดังนั้น โปรดเลือกโรงแรมที่มีอาหารเช้ารับรองก่อนเสมอ
Klook.com7.วิธีซื้อตั๋วเครื่องบิน
จุดเริ่มต้นหรือถือเป็นขั้นตอนแรกของการไปเที่ยวดูไบคือ การซื้อตั๋วเครื่องบินครับ โดยมีสายการบินหลายสายที่เดินทางไปยังดูไบ โดยในบทความนี้ ผมเสนอให้ใช้สายการบิน Emirates Airlines ในการเดินทาง โดยคุณจะได้ประโยชน์หลัก ๆ 2 ข้อคือ
1.สามารถทำ eVisa ได้
2.Check in สะดวกรวดเร็ว
โดยคุณสามารถซื้อตั๋วเครื่องบินได้ตั้งแต่ตอนนี้เลยครับ สำหรับวิธีซื้อตั๋วเครื่องบินนั้นหากคุณต้องการซื้อโดยตรงจาก Emirates Airline สามารถศึกษาจากขั้นตอนด้านล่างได้เลย
ขั้นตอนการซื้อตั๋วเครื่องบิน
ก่อนซื้อตั๋วเครื่องบิน โปรดเตรียมข้อมูลดังต่อไปนี้ให้ครบถ้วนก่อนเสมอ
- 1.ชื่อนามสกุลผู้โดยสารเป็นภาษาอังกฤษ
- 2.วันเดือนปีเกิด
- 3.เลข Passport ของผู้โดยสาร
เมื่อเตรียมข้อมูลครบแล้ว เราก็ไปดำเนินการกันเลย
1.เข้าไปที่เว็บเอมิเรสต์ หรือ คลิกที่นี่

2.ดำเนินการต่อตามลำดับหมายเลขในภาพด้านล่าง

- 1.เลือก สนามบินออกเดินทางเป็น กรุงเทพ (BKK)
- 2.เลือก เลือกสนามบินที่เดินทางมาถึงเป็น ดูไบ (DXB)
- 3.เลือกวันออกเดินทาง และเดินทางกลับ เช่น 15 ธ.ค. 22 – 22 ธ.ค. 22
- 4.ระบุจำนวนผู้โดยสาร เช่น 4 ผู้ใหญ่
- 5.เลือกชั้นที่นั่ง เช่น ชั้นประหยัด
- 6.จากนั้นกดปุ่มสีแดง “ค้นหาเที่ยวบิน”
3.ดำเนินการต่อตามลำดับหมายเลขในภาพด้านล่าง

- 1.เลือกเวลาเดินทางขาไป กรุงเทพ-ดูไบ ผมแนะนำให้เลือก 09.30น. ถึงดูไบเวลา 13.15น.
- 2.เลือกชั้นที่นั่งที่ต้องการ สำหรับตัวอย่างผมเลือกชั้นประหยัด
- 3.เลือกระดับการบริการ เช่น Saver หรือ Flex หรือ Flex Plus เป็นต้น
- 4.จากนั้นกดปุ่มถัดไป
4.ดำเนินการต่อตามลำดับหมายเลขในภาพด้านล่าง

- 1.เลือกเวลาเดินทางขากลับ ดูไบ-กรุงเทพ ผมแนะนำให้เลือก 09.30น. ถึงดูไบเวลา 18.40น.
- 2.เลือกชั้นที่นั่งที่ต้องการ สำหรับตัวอย่างผมเลือกชั้นประหยัด
- 3.เลือกระดับการบริการ เช่น Saver หรือ Flex หรือ Flex Plus เป็นต้น
- 4.จากนั้นกดปุ่มถัดไป
5.ระบบจะสรุปวันเวลาเดินทางไปกลับ กรุงเทพ-ดูไบให้คุณทบทวนอีกครั้ง หากถูกต้องก็ให้กดขั้นตอนต่อไป

6.ดำเนินการต่อตามลำดับหมายเลขในภาพด้านล่าง

- 1.ระบุคำนำหน้าชื่อ เช่น นาย นางสาว นาง เป็นต้น
- 2.ระบุชื่อเป็นภาษาอังกฤษ เช่น Suwit
- 3.ระบุนามสกุลเป็นภาษาอังกฤษ เช่น Wattanatanna
- 4.จากนั้นกดปุ่มสีแดง “บันทึกและถัดไป”
หมายเหตุ ให้บันทึกและทำการกรอกข้อมูลผู้โดยสารให้ครบทุกคนนะครับ และหากต้องการสะสมแต้ม ก็อย่าลืมเลือก สายการบินโปรแกรม และระบุหมายเลขสมาชิกสะสมไมล์ด้วย
7.จากนั้นให้คลิกที่ปุ่ม “เลือกที่นั่ง”

8.มองหาปุ่ม แถว ๆ กรอบสีแดง แล้วคลิกเพื่อเข้าไปหน้าเลือกที่นั่ง

9.เลือกที่นั่งที่เป็นกล่องสีฟ้า เมื่อเลือกแล้วกดปุ่ม “ยืนยันการเลือก” อยู่มุมล่างขวาของจอ

หมายเหตุ: การเลือกที่นั่งอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม โปรดตรวจสอบให้ดี
10.จากนั้นให้ตรวจสอบน้ำหนักสัมภาระที่ได้รับ หากไม่ต้องการเพิ่มเติมใด ๆ ให้คลิกปุ่มสีแดง

11.ตรวจสอบค่าใช้จ่ายอีกครั้ง

12.ดำเนินการต่อตามลำดับหมายเลขในภาพด้านล่าง

- 1.ตัวเลือกการจ่ายเงิน ในที่นี้ผมเลือก เต็มจำนวน
- 2.รายละเอียดการชำระเงิน ผมเลือกบัตรเครดิต/เดบิต
13.หลังจากนั้นติ้กที่ปุ่ม 2 ปุ่ม และตามด้วยกดปุ่มสีแดง

14.เมื่อคุณชำระเงินเรียบร้อย ระบบจะโหลดหน้าด้านล่างขึ้นมาระบุข้อความ “ยินดีต้อนรับขึ้นเครื่อง” แปลว่าการซื้อตั่วเครื่องบินเสร็จสมบูรณ์แล้วครับ ผมขอให้คุณเข้าไปตรวจสอบอีเมล์ เพื่อเข้าไปดาวน์โหลด ตั๋วเครื่องบิน

15.เมื่อเจอจดหมาย ให้คุณคลิกเข้าไปและเลื่อนไปที่ด้านล่างสุดของจดหมาย คุณจะพบกับไฟล์ตั๋วเครื่องบิน pdf ให้ดาวน์โหลดออกมาและปริ้นออกมาใส่แฟ้ม

16.ตั๋วที่คุณได้รับจะใช้อีกครั้งเมื่อคุณ Check in หรือ Check in ออนไลน์ครับ
8.วิธียื่น eVisa หรือวีซ่าออนไลน์
เมื่อเราได้ตั๋วเครื่องบินของสายการบินเอมิเรสต์เรียบร้อยแล้ว เราจะได้รับสิทธิพิเศษ 1 ประการคือ เราสามารถยื่นของวีซ่า ประเภท eVisa โดยให้ทางสายการบินเอมิเรสต์รับรองได้เลย
ข้อดีคือ
1.สะดวกรวดเร็ว
2.สามารถทำผ่านอินเทอร์เน็ตได้เลย
3.ได้รับเอกสารเป็นไฟล์ ภายใน 2-4 วันทำการ
4.ค่าใช้จ่ายต่อคนไม่เกิน 3,500 บาท
โดยวีซ่าที่เราได้รับเป็นวีซ่าประเภทท่องเที่ยวแบบ Single Trip หรือการเดินทางเข้าและออกเพียงครั้งเดียว โดยจำนวนวันที่ได้รับนั้นคือ 30 วันครับ โดยขั้นตอนการกรอกข้อมูลและทำวีซ่าดูไบนี้ เราจะทำบนเว็บของ Emirates เลย
พร้อมแล้วที่จะทำ eVisa ใช่ไหมครับ ถ้าอย่างนั้นเราไปเริ่มต้นขั้นตอนกันเลย!
9.สรุป Checklist สิ่งที่ต้องเตรียม
ลำดับ | รายการ | ยังไม่เรียบร้อย? | เช็ค |
---|---|---|---|
1 | กำหนดช่วงเวลาเที่ยวดูไบเรียบร้อย | คลิกที่นี่ | ✅ |
2 | เลือกจำนวนวันเที่ยวดูไบเรียบร้อย | คลิกที่นี่ | ✅ |
3 | ออกแบบโปรแกรมเที่ยวดูไบเรียบร้อย | คลิกที่นี่ | ✅ |
4 | เตรียมวงเงินค่าใช้จ่ายต่อคนเรียบร้อย | คลิกที่นี่ | ✅ |
5 | จองที่พักดูไบเรียบร้อย | คลิกที่นี่ | ✅ |
6 | จองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อย | คลิกที่นี่ | ✅ |
7 | ทำ eVisa และได้รับเอกสารเรียบร้อย | คลิกที่นี่ | ✅ |
8 | จองที่เที่ยว/กิจกรรม เรียบร้อย | คลิกที่นี่ | ✅ |
9 | จัดทำประกันเดินทางเรียบร้อย | คลิกที่นี่ | ✅ |
10 | จัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ เรียบร้อย อาทิ Passport, eVisa, ใบจองโรงแรม, ตั๋วเครื่องบิน | คลิกที่นี่ | ✅ |
10.เทคนิคการใช้ชีวิตที่ดูไบ (ในช่วงเที่ยว)
อย่าแต่งตัวโป๊จนเกินงาม
แม้ว่าเมืองดูไบ จะได้รับการผ่อนผันพอสมควรในเรื่องของการแต่งตัว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า คุณจะแต่งตัว Sexy อย่างไรก็ได้ ผมแนะนำว่าเพื่อความปลอดภัย และไม่มีอะไรมากวนใจ โปรดแต่งตัวให้พองามครับ
กางเกงขาสั้นสามารถใส่ได้ เสื้อแขนกุดก็ใส่ได้ แต่ถ้ากางเกงสั้นเสมอหูแบบนี้ไม่ได้นะครับ เครื่องประดับสามารถใส่ได้ครับ ใส่มาก ๆ แบบตู้ทองเคลื่อนที่ หรือตู้เพชรเคลื่อนที่ก็ทำได้
ฝึกฝนภาษาอังกฤษสำเนียงอาหรับไว้
ใคร ๆ ก็รู้ความจริงข้อนี้ว่าดูไบใช้ภาษาอังกฤษ แต่ผมขอเสริมว่า มันเป็นภาษาอังกฤษสำเนียงอาหรับนะครับ ดังนั้นถา้คุณไม่เคยฟังสำเนียงอาหรับ คุณอาจต้องลองฟังจากใน YouTube จะช่วยให้คุณฟังภาษาง่ายขึ้นเมื่ออยู่ที่ดูไบ
ตู้เดินทาง Gold Class ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป
เมื่อคุณเดินทางโดย Dubai Metro Line คุรจะพบกับตู้ Gold Class ซึ่งจะอยู่บริเวณด้านหน้าของขบวน ผมอยากจะบอกว่า ถ้าคุณไม่คิดจะชมวิวแล้วล่ะก็ ไม่จำเป็นต้องนั่งก็ได้ครับ และถึงแม้คุณจะนั่ง คุณก็อาจไม่ได้นั่ง! เพราะที่นั่งในตู้ Gold Class มีน้อยมาก และคนมักยืนกันแน่น พอๆ กับตู้ปกติเลยครับ
รถ eBike หรือ eScooter ขึ้นลงสถานีได้
คุณสามารถนำรถ eBike หรือ eScooter ขึ้นสถานี Metro Line ได้ครับ ถือเป็นข้อดีมาก ๆ เพราะสามารถช่วยคุณท่องเที่ยวตามตรอกซอกซอยได้ง่ายขึ้นกว่าการเดิน
อะไร ๆ ก็บัตรเครดิต/เดบิต
ทุกการใช้จ่ายในดูไบ เราแทบไม่ได้ใช้เงินสดเลย คุณสามารถใช้บัตรเครดิต/เดบิตในการชำระเงินทุกอย่าง ตั้งแต่ค่าเดินทาง ซื้อบัตร nol card จ่ายค่าอาหาร ยา เข้าร้านสะดวกซื้อ ทุกอย่างที่คุณต้องจ่าย สามารถทำผ่านบัตรได้หมด
นมอร่อยกว่าที่คุณคิด!
อย่าไว้วใจคนที่อาสาถือของให้กับคุณ
เงินดีแรม แม้เหรียญ 5 หรือเหรียญ 10 อย่าทิ้ง!
ท่องไว้ในใจเลย 1 ดีแรม = 10 บาท ดังนั้นเมื่อคุณเจอเหรียญ 10 ดีแรม นั่นคือเงิน 100 บาท! ไม่ใช่เงิน 10 บาท พยายามเอาไปใช้ เช่นไปหยอดตู้น้ำ หรือในร้านสะดวกซื้อ และอย่าทิ้งเงินนี้เด็ดขาด
แดดแรง ครีมกันแดดโป๊ะเข้าไป!
พยายามถ่ายรูปเยอะ ๆ
อาหารดูไบไม่มีหมูนะครับ
อย่าเดินทางกลับประเทศไทยวันอาทิตย์ (ถ้าไม่จำเป็น)
แชทสถานฑูตไทย ตอบได้ดีกว่าที่คุณคิด!
อย่าลืมซื้อปลั้ก Universal ไม่อย่างนั้นชาร์ตแบตที่ดูไบไม่ได้!
มาถึงตอนท้ายนี้ผู้เขียนเชื่อว่า บทความเรื่อง คู่มือเที่ยวดูไบ ด้วยตนเองปี 2023 ฉบับนี้จะสามารถช่ยยให้คุณออกแบบทริปการท่องเที่ยวดูไบครั้งแรกได้ง่ายยิ่งขึ้น และมีความสมบูรณ์มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการออกแบบทริป และช่วยให้คุณสนุกและประทับใจเมื่อมาเที่ยวดูไบเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
หากคุณต้องการความช่วยเหลือ สามารถส่งอีเมล์มาสอบถามได้ที่ articleheros@gmail.com สิ่งใดที่ผมให้ข้อมูลช่วยเหลือคุณได้ เราจะทำอย่างเต็มที่ที่สุดครับ ขอให้สนุกกับการเที่ยวดูไบนะครับ